วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ความจริงที่ควรอ่าน ของโสมเกาหลี แปะก๊วย หรือ โกจิเบอรี่

  1. โสมเกาหลี  

โสมเกาหลี" href="http://www.thaiherbweb.com/product-type/3294/โสมผสมใบแป๊ะก้วย.html">โสมเกาหลี แปะก๊วย โกจิเบอรี่ สมุนไพรสุขภาพ

ทำไมยาอายุวัฒนะถึงต้องราคาแพง ทำไมยาอายุวัฒนะถึงต้องหาซื้อยาก ก็ต้องมีที่มาที่ไปกันหละนะว่า ทำไม ซึ่งยาอายุวัฒนะที่พูดถึงนี่ก็คือ โสมเกาหลี นั่นเอง เรามาทำความรู้จักกับโสมทั้งให้ด้านสุขภาพ และ ด้านความงามกัน แต่ก่อนที่จะได้ถึงจุดนั้น เรามาทำความรู้จักกับการก่อกำเนิดของโสมแบบฉบับย่อกันก่อน

โดยทั่วไปแล้วถ้าเราพูดถึงโสม ทุกคนก็จะบอกเป็นคำเดียวว่า อ้อ #โสมเกาหลี คำตอบที่ถูกคือ ถูกต้องนะครับ แต่ทว่า ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ อันที่จริงแล้ว โสม มีถิ่นฐานหลักๆอยู่ทั้งหมด 3 แหล่งด้วยกัน คือ

เอเชียน จินเซ็ง : นั่นก็คือ #โสมเกาหลี ซึ่งก็ปลูกในประเทศเกาหลีและในประเทศจีน โดยค้นพบว่า โสมเอเชียของเรานี้เป็นโสมที่มีประโยชน์สูง และยังรวมไปถึงเป็นโสมที่มีคุณค่าทางอาหารสุงสุดอีกด้วย

อเมริกัน #จินเซ็ง : โสมอเมริกา มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในแถบประเทศอเมริกา โดยยังพบว่า โสมอเมริกานี้มีคุณประโยชน์และคุณค่าทางอาหารรวมไปถึงประโยชน์ในด้านการรักษาด้วยกว่าโสมที่มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในประเทศแถบเอเชีย

ไซบีเรียน จินเซ็ง : โสมไซบีเรีย ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ซึ่งมีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในไซบีเรีย โดยเมื่อเทียบด้านคุณประโยชน์และคุณค่าทางอาหารแล้ว โสมไซบีเรีย มีผลด้านการรักษาด้วยกว่า โสมสองแหล่งแรก

ในท้องตลาดกว่า 90% พบว่า ผลิตภัณฑ์จากโสม เป็นโสมที่มีแหล่งเพาะปลูกอยู่ในประเทศจีน และ เกาหลี และยังพบอีกว่า กว่า 70% เป็นโสมที่มาจากประเทศเกาหลีทั้งสิ้น เพราะโสมจากเกาหลีได้รับขนานนามว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก

กว่าที่ชาวบ้านจะปลูกโสมให้พวกเราได้สรรหามาเ ป็นเจ้าของได้นั้นต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5-6 ปี นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมโสมถึงมีคุณค่าทางอาหารสูงสุด เพราะระยะเวลานานมากขนาดนี้จึงส่งผลให้ส่วนรากของโสมเก็บกักอาหารไว้ได้มาก #รากโสม จึงเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ และลักษณะของรากโสมนั้นมีรูปร่างคลับคล้ายคลับคลาไปทางรูปร่างของมนุษย์ มีหัว ตัว แขน ขา พร้อมสรรพ อีกทั้งเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวเรียบร้อยแล้ว ที่ดินที่ปลูกโสมก็ยังไม่สามารถนำไปเพาะปลูกพืชผลอะไรได้ ให้ดีที่สุดต้องปลูกถั่วเพื่อให้อาหารกับดิน เพราะดินบริเวณที่ปลูกโสมนั้น จะเป็นพื้นดินที่ไม่มีธาตุอาหารแต่อย่างใดแล้ว เพราะโสมเค้าพากันเก็บกักไว้ที่รากของเค้าจนหมด ด้วยเหตุผลนี้นี่เอง จึงส่งผลราคาโสมนั้นเรียกได้ว่า แพงมากมาย โดยโสมที่เรารู้จักกันนั้น แบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ

#โสมแดง : คือ เราขุดโสมมาแล้วเราตัดรากแก้ว รากฝอยออกให้หมด แล้วนำไปอบไอน้ำ คุณค่าทางอาหารของโสมประเภทนี้จึงอยู่ครบถ้วน จึงถูกจัดว่าเป็นโสมที่มีคุณประโยชน์สูงสุด

โสมขาว : กระบวนการถนอมรักษาเบื้องต้นเหมือนโสมแดง แต่เพิ่มเติมโดยการนำโสมไปแช่น้ำเชื่อมทั้งนี้เพื่อให้สามารถเก็บโสมไว้ได้นานขึ้น หรือ อีกนัยเพื่อให้สามารถเก็บนำไปทำเป็นอาหารหรือแปรรูปอื่นๆได้อีก การที่นำโสมไปผ่านกระบวนการมากขึ้นจึงเป็นลดคุณประโยชน์ของโสมลงโดยปริยาย ดังนั้นราคาโสมขาวจึงถูกกว่าโสมแดง

โสมแห้ง : เหมือนการทำผักตากแห้งบ้านเรา คือ นำโสมมาตัดรากฝอย แล้วนำไปตากแห้งก่อน แล้วค่อยอบ

โสมสกัด : ตัวนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นการนำ ทุกส่วนของโสมมาแปรรูปด้วยการสกัดเพื่อเป็นสารตั้งต้นในการทำอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอางค์

หากหลายๆท่านที่เคยไปเที่ยวชมไร่โสมที่ประเทศเกาหลีมาแล้ว ลองสังเกตุหรือนึกย้อนกลับไปดีๆ ท่านจะพบว่า ชาวสวนโสมนั้น มีผิวพรรณที่ดีมาก แม้ว่าจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังดูเปล่งปลั่ง #ผิวพรรณหน้าตาดูสดใส แก้มเป็นสีชมพู ดูมีเลือดฝาด รวมทั้ง ยังดูกระปรี้กระเปร่า #กระฉับกระเฉง ดูพวกเค้าไม่เครียด ก็เพราะชาวสวนปลูกโสมก็ต้องทานโสมเป็นเรื่องปกติ ลักษณะการทานของเค้าเหมือนทานหัวมันต้มบ้านเรา หรือ เอาไปเป็นเครื่องเคียงทานร่วมกันกับกิมจิ เมื่อทานบ่อยๆเข้าร่างกายก็จะได้รับประโยขน์จากโสมมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทำให้ชาวสวนโสมดูไม่แก่ตามวัย เพราะอะไรก็เพราะในโสมมีสารชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมาข้างต้น สารตัวนี้คือ สารชาโปนิน ซึ่งทำหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนดี หรือพูดง่ายๆสารชาโปนินจะช่วยล้างสิ่งสกปรกต่างๆออกจากร่างกายของเรา จึงส่งผลให้ทุกส่วนของร่างกายรวมไปถึงอวัยวะภายในสะอาดและมี#ภูมิคุ้มกัน อยู่ตลอดเวลา

เมื่อคุณสมบัติของโสมมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมายมหาศาลเช่นนี้ ดังนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทานโสมคือ ช่วงเวลาที่ท้องว่าง ร่างกายจะสามารถดูดซึมสารสกัดที่เราได้รับจากโสมเข้าไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีที่สุด แต่ถ้าใครไม่อยากฝีนใจตัวเองว่าต้องทานโสมตอนไหนก็ไม่เป็นไร เพราะโสมเกาหลี คือแหล่งอาหารอันทรงคุณค่า จึงไม่มีข้อแม้ในการทาน เราสามารถทานโสมได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายในด้านการรักษาว่าต้องการปริมาณโสมที่มากหรือน้อยกว่าเพียงใดเท่านั้น

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ในรากของโสมนั้นมีสาร #จินเซ็นโนไซด์ ซึ่งสารชนิดนี้มีหลายชนิด โดยจินเซ็นโนไซด์นั้นจะสะสมอยู่ในส่วนต่างๆของรากโสม โดยเราอาจจะรู้สึกแปลกใจเมื่อทราบว่า ส่วนที่มีจินเซ็นโนไซด์น้อยที่สุด คือส่วนตัว รองลงมาคือส่วนแขนขา และส่วนที่มีมากที่สุดคือ ส่วนหัว

ดังนั้นหากเราได้มีโอกาสได้ทานโสมหละก็ ไม่ต้องเกี่ยงว่าจะเป็นส่วนไหนขอบอกว่า ท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่โชคดีเพราะครั้งหนึ่งในชีวิตท่านได้มีโอกาสได้ทานพืชที่มีประโยชน์และคุณค่าอย่างสูงสุดแล้วhttp://goo.gl/FQD7La   

               

                                        แปะก๊วย" href="http://www.thaiherbweb.com/product/223221/โสมเกาหลี6ปีผสมใบแปะก้วยแคปซูล.html">โสมเกาหลี ผสม แปะก๊วย

 

ทำไมต้องโสมของร้านนี้

เพราะร้านนี้เราใช้เฉพาะโสมเกาหลี เท่านั้น ไม่ใช่โสมอเมริกา สรรพคุณคนละระดับทานของดีคุ้มค่าผลิตจากรากโสมเกาหลีสด เกรด A อายุ 6 ปี มาผ่านกระบวนการทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว เพาะป้องกันเอ็มไซด์จะทำลายสารจินเซนโนไซน์ในรากโสม หลังจากผ่านกรรมวิธีทำให้แห้งแล้ว ก็นำมาบดเป็นผงละเอียด 100% ผ่านการตรวจสอบแล้วควบคุมความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แล้วนำมาบรรจุแค็ปซูล ขนาด 500 มิลลิกรัม

ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพราะผู้ผลิตโสมมีมาตรฐานการผลิตที่แตกต่างกัน

  • มีผลต่อสมรรภาพของร่างกาย / ป้องกันความชรา

  • ช่วยป้องกันความอ่อนเพลีย , ความเมื่อยล้า

  • ทำให้ร่างกายมีความทนทานต่อการทำงานหรือการออกกำลังกายได้ยาวขึ้น ช่วยให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ

  • ช่วยฟื้นฟูความสมบูรณ์ของร่างกาย โดยเฉพาะหลังอาการเจ็บป่วย

  • ป้องกันความชรา กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ของอวัยวะต่างๆ

  • ผลต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต / ความดันโลหิต / ปริมาณน้ำตาลในเลือด

  • ช่วยทำความสะอาดหลอดเลือด ขจัดไขมันตามผนังหลอดเลือด

  • ขจัดสารพิษต่างๆในเลือด ช่วยให้เกล็ดเลือดมีความสมบูรณ์

  • กระตุ้นการเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว ป้องกันโรคโลหิตจาง

  • ปรับระบบความดันของโลหิต ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว

  • ป้องกันการช็อกในภาวะที่เสียเลือดมาก ช่วยในสตรีที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับรอบเดือน

  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ

  • ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน

  • ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

  • ช่วยปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล ป้องกันการติดเชื้อ

  • เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ สุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ เป็นหวัดง่าย แพ้อากาศ ไอหรือจามบ่อยๆ

  • ผลต่อระบบประสาทสัมผัส และระบบความจำ

  • ใช้กระตุ้นให้ร่างกายมีความตื่นตัว ป้องกันและลดความเครียด

  • ทำให้สมองปลอดโปร่ง เสริมสร้างระบบความจำ

  • ยืดอายุเซลล์สมอง ช่วยให้ผ่อนคลาย

  • ผลต่อระบบการย่อย การดูดซึมและการขับถ่าย

  • ช่วยป้องกันโรคอ้วน ไขมันสะสม ฮอร์โมนผิดปกติ

  • โรคลำไส้อักเสบ

  • ท้องผูก ริดสีดวงทวาร

  • ผลต่อระบบอวัยวะภายใน (หัวใจ ตับ ปอด ม้าม ไต)

  • ควบคุมการผลิตและการทำงานของฮอร์โมนต่างๆให้อยู่ในภาวะสมดุล ป้องกันอาการเสียหาย

  • เสริมสร้างความแข็งแรงของอวัยวะภายในต่างๆ

  • ผลต่อระบบสืบพันธุ์และสมรรถภาพทางเพศ

  • กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนทางเพศ

  • ฟื้นฟูความสมบูรณ์ของเสปิร์ม และไข่

  • เพิ่มปริมาณและความแข็งแรงของเสปิร์ม

ข้อควรระวังในการใช้


1.ไม่ควรใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานๆ ควรใช้เป็นช่วงๆ คือนาน 1-2 เดือน แล้วหยุด 1-2 เดือน แล้วเริ่มใหม่ เพราะโสมเป็นสมุนไพรมีประโยชน์สุง มีความร้อนสูงจึงควรทานเว้น ทานเว้น
2.ควรทานโสมก่อนอาหาร 3 ชั่วโมง และไม่ควรทานพร้อมวิตามินซี หรือผลไม้รสเปรี้ยว
3.อาจพบอาการข้างเคียงถ้าใช้ในขนาดสูงกว่าที่แนะนำ เช่นความดันโลหิตสูง ตื่นเต้น กระวนกระวาย ท้องเสีย เป็นผื่นที่ผิวหนัง นอนไม่หลับ ซึ่งเรียกว่า “ginseng abuse syndrome”

 

 

 

 



เครดิต : http://www.thaiherbweb.com/product-type/3300/พลังโสมแท้-(6ปี).html

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

หากรู้สึกหย่อนยาน ทานรากสามสิบ สมุนไพรกระชับช่องคลอด

รากสามสิบ รากสามสิบ.html">

สาวร้อยผัว ภูมิปัญญาสมุนไพรที่ใกล้จะถูกลืม


อาจจะเป็นเพราะรากฐานของการให้ความสนใจและความรู้ต่อสมุนไพรไทยของบ้านเรายังน้อยไปหรือไม่ ที่ทำให้ในปีหนึ่งๆ ประเทศไทยต้องนำเข้ายาจากต่างประเทศมูลค่านับ 4.5-5หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ เมื่อเทียบกับในประเทศที่เจริญแล้วที่จ่ายค่ายาเพียงร้อยละ 10-15 เท่านั้น
ทั้งๆ ที่ภูมิปัญญาพื้นบ้านในด้านการรักษาและตัวสมุนไพรของไทยเป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ ต้องการมากจนถึงกับดั้นด้นและพยายามจดสิทธิบัตรเพื่อครอบครองเป็นของตนเองให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ  จากการที่นิตยสาร Herb for Health มีโอกาสได้ไปพูดคุยสัมภาษณ์พี่ต้อม หรือ ภ.ญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งได้ให้ความคิดเห็นว่า “จริงๆ แล้วสังคมไทยให้ความสำคัญกับการต่อยอดมากกว่าที่จะกลับไปดูรากและให้คุณค่ากับภูมิปัญญาโดยแท้จริงแล้ว บ้านเรายังมีอะไรอีกมากที่น่าสนใจ แต่เราขาดความเอาใจใส่หรืออาจหลงลืม ทำให้ภูมิปัญญาหายไป เป็นหน้าที่ของเราที่จะทำอย่างไรให้ภูมิปัญญาเหล่านั้นได้รับการเหลียวแล และทำให้กลับมาสุ่การใช้ในสังคมปัจจุบันได้

รากสามสิบ

#สมุนไพร่ไทยบางตัว เช่น มังคุด แต่ก่อนคนไม่ค่อยเห็นคุณค่า ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเปลือกมังคุดเป็นสารที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งในประเทศอินเดียมีการใช้เป็นสมุนไพรอันดับสองรองจากมะขามป้อมเลยทีเดียว และจากการที่ได้ไปเดินป่าบ่อยๆ ทำให้เห็นว่าแผ่นดินไทยยังมีความร่ำรวยของสมุนไพรอยู่เป็นอันมาก สมุนไพรบางตัวที่เกือบกลายเป็นตำนาน เช่น “รากสามสิบ” หรือทางภาคอีสานเรียกว่า “สาวร้อยผัว” คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อเลย แต่จริงๆ แล้วมีประโยชน์อย่างมาก คือ เป็นได้ทั้งอาหาร ยา ขนม ผัก หรือเป็นไม้ประดับก็ยังได้ ส่วนในด้านการเป็นยารักษาโรค จะมีคุณค่าในเรื่องการเป็นตัวยาแก้ปัญหาของผู้หญิงภาวะหลังมีประจำเดือน ภาวะหมดประจำเดือน ภาวะมีบุตรยาก หรือช่วยฟื้นฟูในเรื่องของการหมดอารมณ์ทางเพศได้ รากสดๆ ของสมุนไพรชนิดนี้ยังสามารถนำมาทุบหรือขูดกับน้ำเพื่อซักเสื้อผ้าได้อีกด้วย แหล่งที่มาของรากสามสิบ สามารถพบได้ทั่วไปทุกภาคส่วนใหญ่จะชอบอยู่ในดินที่มีทรายผสมอยู่นิดหน่อย และสภาพที่ชุ่มชื้น มีข้อมูลพบตั้งแต่พื้นราบจนถึงระดับพันเมตรจากน้ำทะเล
ความหลากหลายของสมุนไพรไทยยังมีมาก ซึ่งเราพยายามรณรงค์ให้คนหันมาใช้ในสิ่งที่มีอยู่แล้วและเร่งการศึกษา ส่งเสริมให้เก็บสิ่งที่สังคมลืมไปแล้วให้กลับมา และเป้าหมายต่อไปคือจะทำอย่างไรให้คนในระดับชุมชนสามารถพึ่งตนเองจากภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ ถ้าสามารถทำให้คนเหล่านี้มีความรู้ มีทักษะเป็นของตนเอง ก็คงจะเป็นรากฐานให้เขาต่อยอดต่อไปได้ดี แนวทางในอนาคต จะมีการนำรากสามสิบมาทำในรูปของชา แคปซูล หรือเครื่องสำอาง ส่วนการสกัดสารนั้นทางเราไม่ได้สกัดเอง แต่จะพยายามกระตุ้นให้มีการวิจัยเกี่ยวกับรากสามสิบมากขึ้น
ถ้ารากฐานของเราแข็งแรง ไม่ดิ้นอยู่กับสมุนไพรไม่กี่ตัว เช่น #ขมิ้นชัน #ฟ้าทะลายโจร #ภูมิปัญญาและสมุนไพรไทยที่ถูกหลงลืมคงจะกลับมาสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจจากสิ่งที่มีอยู่ในบ้านเราให้ดีขึ้นได้

รากสามสิบ

รากสามสิบ

#รากสามสิบ รีแพร์ แน่นๆเน้นๆ กระชับ สุขเหมือนสาวๆ


ฉันได้ทาน สมุนไพรรากสามสิบ ก็มาจากที่พูดกับเพื่อนว่า ฉันก็ยังอยากมีความสุขกับแฟนฉันอยู่นะ และเลือกจะทาน รากสามสิบล้วน ไม่เอาแบบผสม เพราะมันไม่เข้มขั้นตามที่คิด ผลที่ได้ฉันมีความสุขขึ้นจริงๆ #รากสามสิบ สรรพคุณเด่น ๆ ของสมุนไพรตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องเป็น #ยาบำรุงสำหรับสตรี ซึ่งหลายคนอาจเคยเห็นสมุนไพรรากสามสิบแบบแคปซูลกันมาบ้าง แล้วรู้ไหมคะว่า ประโยชน์ของรากสามสิบ สมุนไพรตัวเด็ดนี้ไม่ได้มีดีแค่ช่วยคนอยากมีลูกเท่านั้น รากสามสิบแท้จริงแล้วถูกเรียกหลายชื่อมาก ๆ เช่น #สาวร้อยผัว จ๋วงเครือ (ภาคเหนือ) ผักชีช้าง ผักหนาม (ภาคอีสาน) สามร้อยราก สามสิบ ชีช้าง จั่นดิน หรือม้าสามต๋อน มีชื่อสามัญว่า Shatavari
ส่วนลักษณะต้นรากสามสิบเป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง มีหนามแหลม มีเหง้าและรากใต้ดินคล้ายรากของต้นกระชาย ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว แยกเป็นช่อ มีกลิ่นหอม เป็นต้นที่มีผลสดลักษณะกลม ผิวเรียบมัน และมีเมล็ดสีดำ

รากสามสิบ

#รากสามสิบถูกเปรียบให้เป็นพลังแห่งการฟื้นฟูความสาว (Female Rejuvenation) เป็นยาโบราณที่หมอแผนโบราณและแพทย์สมุนไพรใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งก็นับเป็นที่มาขอรากสามสิบงชื่อสาวร้อยผัว ชื่อเล่นอีกชื่อของรากสามสิบนั่นเอง โดยคนโบราณมักจะนำรากมาต้มกินหรือปั้นเป็นลูกกลอนกินกับน้ำผึ้ง ซึ่งบอกต่อ ๆ กันว่า จะช่วยบำรุงสตรีให้ไมว่าจะอายุเท่าไรก็มีลูกได้ง่าย และด้วยสรรพคุณของรากสามสิบที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยพะเยาจึงได้ทำการศึกษาเรื่อง ผลของสารสกัดรากสามสิบต่อการป้องกันการสลายเนื้อกระดูกและ#อวัยวะสืบพันธุ์ ในหนูแรทที่ถูกตัดรังไข่ เนื่องจากเล็งเห็นว่า #โรคกระดูกพรุนซึ่งมักจะเกิดกับเพศหญิงมากกว่าเพศชายนั้น มีสาเหตุหลักจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนภายหลังหมดประจำเดือน โดยได้ผลการทดลองมาว่า หนูที่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบหลังจากถูกตัดรังไข่ มีน้ำหนักมวลกระดูกที่มากกว่ากลุ่มหนูถูกตัดรังไข่แต่ไม่ได้รับสารสกัดสมุนไพรรากสามสิบ 
นอกจากนี้สารสกัดรากสามสิบยังไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเยื่อบุโพรงมดลูก ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สารสกัดรากสามสิบอาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการสลายของเนื้อกระดูกในหนูทดลองได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่ออวัยวะสืบพันธุ์ ทว่ายังคงต้องทดลองเพิ่มเติมเพื่อศึกษาว่า สารสกัดรากสามสิบจะมีผลกระทบใด ๆ กับอวัยวะอื่นหรือไม่
สมุนไพรสามสิบมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ลดการอักเสบ แก้อาการปวด คลายกล้ามเนื้อของมดลูก บำรุงหัวใจ ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ขับน้ำนม มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยับยั้งเบาหวาน ลดระดับไขมันในเลือด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ  สารสำคัญที่พบในรากคือสาร steroidal saponins ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่เลียนแบบฮอร์โมนเพศ จึงน่าจะมีบทบาทในการรักษาอาการที่เกิดขึ้นในช่วงวัยหมดระดูของสตรี รวมไปถึงการช่วยปกป้องการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงโรคกระดูกพรุน

 ข้อควรระวังในการใช้รากสามสิบ

เนื่องจากสมุนไพรรากสามสิบออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้นจึงจัดเป็นยาสมุนไพรที่ไม่ปลอดภัยนักต่อเพศหญิงที่มีความเสี่ยงโรคมะเร็งอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในมดลูก (Uterine Fribrosis) หรือมีก้อนเนื้อในเต้านม (Fibrocystic Breast) เป็นต้น ดังนั้นไม่ว่าจะใช้สมุนไพรอะไรก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุดนะคะ



เครดิต : http://www.thaiherbweb.com/product-type/3315/รากสามสิบ.html

สมุนไพรกระชับช่องคลอด หญ้ารีแพร์ รากสามสิบ ฮี๋ยุ่ม

สมุนไพรมหัศจรรย์หญ้ารีแพร์มหาเสน่ห์แห่งพรหมจรรย์
นอกจากเรื่องหน้าตาประการด่านแรกที่เปรียบเสมือนความสวยความงามของคุณผู้หญิงทุกคนแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนให้ความสำคัญกันนักหนา แต่ผู้หญิงอย่างเราให้ความสำคัญอย่างมากนั่นก็คือ “ช่องคลอด

 

หญ้ารีแพร์


ใครว่าช่องคลอดไม่สำคัญ ผู้หญิงอย่างเราคงเถียงขาดใจช่องคลอดคือสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนมี แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ช่องคลอดที่ไม่กระชับ เต่งตึง นับเป็นปัญหาหนักอกหนักใจ และปัญหาระดับชาติของสาวน้อยสาวใหญ่เลยทีเดียวไหนจะทำให้เราขาดความมั่นใจเวลามีเพศสัมพันธ์ แถมยังรู้สึกขาดเสน่ห์แห่งความเป็นหญิง เพราะเหตุนี้ปัจจุบันจึงมีทั้งบรรดายากกิน ยาทา ยาบำรุงที่อวดอ้างสรรพคุณ ทำให้ช่องคลอดกลับมากระชับได้ดั่งสาวพรหมจรรย์ นอกจากนั้นยังทำให้หน้าอกของคุณสาวๆ เต่งตึงและมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย บางยี่ห้อถึงกับโฆษณาสรรพคุณเป็นยาครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว
โดยยาเหล่านี้มีหลากหลายยี่ห้อ บ้างก็อ้างว่านำเข้าจากต่างประเทศ จากยุโรปบ้าง เกาหลีบ้าง จีนบ้าง ขายกันอย่างเกลื่อนกลาดทำให้ “ผู้หญิงไทย” ตกหลุมพรางการโฆษณาเกินจริงของสินค้าเหล่านี้ ที่เรียกว่ายาประเภท “อกฟูรูฟิต” ปัจจุบันยาประเภทนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ หลายยี่ห้ออาจจะแค่ไปจดแจ้งเท่านั้น แต่ก็ไปโฆษณาว่าได้รับอนุญาตจาก อย.ก็มี
ผู้หญิงหลายคนจึงเลือกวิธีที่แน่นอนไปเลย นั่นก็คือ “การรีแพร์ช่องคลอด” นั่นเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร และยังต้องเจ็บตัวอีกด้วย แต่วันนี้ถือเป็นโชคดีของผู้หญิงอย่างเราก็ว่าได้    เพราะมีวิธีการใหม่ที่จะคืนความสาวให้อย่างมหัศจรรย์ในราคาที่ไม่สูงเลยแม้แต่นิดเดียว   เพราะเป็นพืชสมุนไพรและภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่สำคัญคือ ไม่เจ็บตัวอีกด้วย สิ่งที่เรากำลังจะกล่าวถึงนั่นก็คือ    "หญ้ารีแพร์" นั่นเอง
หากจะกล่าวว่ามีวิธีการทำให้ช่องคลอดกลับมากระชับเต่งตึงได้ดังสมัยสาวๆ วัยแรกแย้ม มีหรือที่หญิงคนไหนจะไม่สนใจยิ่งหากได้ยินว่าความกระชับช่องคลอด จะกระชับรักระหว่างสามีให้กลับมาด้วยแล้วละก็ คงไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธ เพราะนอนจากผู้หญิงอย่างเราควรใส่ใจภายนอกให้ดูสาวอยู่เสมอแล้วภายในก็ต้องใส่ใจเช่นเดียวกัน  แล้วปัญหาช่องคลอดหย่อนยานที่เป็นปัญหาหนักอกหนักใจของผู้หญิงอย่างเราจะหมดไปในวันนี้ เพราะสมุนไพรไทยที่เพิ่งเปิดตัวมาหยกๆ อย่าง “หญ้ารีแพร์” นี้เป็นที่คุ้นเคยและใช้กันอย่างแพร่หลาย ในฐานะสมุนไพรไทยที่มาจากภูมิปัญญาชาวบ้านมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว หญ้ารีแพร์เป็นสมุนไพรพื้นบ้าน แต่หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงมีชื่อค่อนข้างฟังดูทันสมัย อันที่จริงแล้วครั้งแรกที่มีการเริ่มเข้าไปศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง ชาวบ้านเรียกชื่อสมุนไพรชนิดนี้ว่า “หญ้าฮี๋ยุ่ม” ลองดูแล้วอาจจะต้องตกอกตกใจกับชื่อว่าพูดผิด ได้ยินผิด หรือสะกดผิดหรือเปล่า แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้เขียนหรือพิมพ์ผิดแต่อย่างใด หญ้าชนิดนี้มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หญ้าฮี๋ยุ่ม” จริงๆ

หญ้ารีแพร์


ตามภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมาช้านาน ผู้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตรทุกคนจะต้อง “อยู่ไฟ”  เพราะเชื่อว่าการตั้งครรภ์นั้นทำให้สรีระของผู้หญิงเปลี่ยนไปอย่างมาก การอยู่ไฟหลังคลอดก็เพื่อให้กลับมามีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงดังเดิม การอยู่ไฟเป็นวิธีที่ใช้ประโยชน์จากสรรพคุณของสมุนไพรไทยหลากหลายชนิด เพื่อดูแลรักษาสุขภาพหลังคลอด อย่างเช่นใบหนาด ขิง ข่า ไพล ใบมะกรูด ใบยอ เป็นต้น  การอยู่ไฟมีวิธีการแตกต่างกันไปตามพื้นที่เพราะเมื่อก่อนยังไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มีโรงพยาบาล มีเพียงหมอตำแยมาทำคลอดให้ตามวิธีการ และหมอตำแยก็มักจะเป็นผู้แนะนำวิธีการอยู่ไฟอีกด้วย บางทีนำเอาเตาที่มีต้นกล้วยผ่าครึ่ง วางบนแคร่ เอาดินโรยก่อนจะจุดไฟ ให้เตาวางไว้ใต้แคร่ แล้วให้หญิงที่คลอดบุตรนอนบนแคร่ เป็นต้น ซึ่งการใช้หญ้าฮี๋ยุ่มถือเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ใช้สำหรับการอยู่ไฟหลังคลอดได้เช่นกัน แต่ใช้วิธีการนำมาต้มให้หญิงเพิ่งคลอดเข้ากระโจมอบในรูปแบบไอน้ำ
ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยโบราณเหล่านี้ เราได้รับการถ่ายทอดมาจากประเทศที่มีการแพทย์ก้าวหน้า อย่างเช่น อินเดีย หรือจีน ตั้งแต่สมัยสุโขทัย นำมาประยุกต์ให้เข้ากับสมุนไพรไทยที่มีอยู่ในภูมิประเทศ และด้วยความที่สมุนไพรไทยมีหลายร้อยชนิด และมีสรรพคุณไม่แพ้ชาติใด จึงทำให้การแพทย์แผนโบราณของไทยเป็นการรักษาที่เน้นการใช้ยาเป็นหลัก 

สมุนไพร”หญ้าฮี๋ยุ่ม” หรือ “หญ้ารีแพร์” นี้จะสามารถบรรเทาอาการต่างๆ ได้ ทั้งช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว บีบมดลูกแห้ง และช่วยให้แผลแห้งเร็วขึ้น หายไวขึ้น มีสรรพคุณในการขับน้ำคาวปลาของหญิงเพิ่งคลอดบุตรอีกด้วย แม่หมอยังบอกวิธีการใช้สมุนไพรอีกว่า วิธีการใช้แสนง่ายคนโบราณนั้นไม่นำหญ้าชนิดนี้มากินสดๆ หรือมาบดแปรรูปกินเป็นยาเม็ดแต่อย่างใด แต่หญ้าฮี๋ยุ่มนี้ใช้นำมาต้ม แล้วค่อยนำน้ำที่ต้มจากสมุนไพรมากิน หรือไม่ก็ต้มอาบด้วยก็ได้  สมุนไพร “หญ้าฮี๋ยุ่ม” เคล็ดลับของหญิงไทยโบราณนี้แท้จริงแล้วสามารถอธิบายทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน ที่หญ้าชนิดนี้ทำให้ช่องคลอดผู้หญิงกระชับเต่งตึงเป็นเพราะหญ้าชนิดนี้เป็นพืชตระกูลเดียวกับไผ่ ซึ่งในไผ่จะมีสาร “ซิลิกา” เป็นสารที่ช่วยในเรื่องของการยืดหยุ่น เปล่งหลั่ง และทำให้กระชับ ช่วยเรื่องการสมานแผล  
นอกจากนั้นหญ้าฮี๋ยุ่มยังสามารถนำมารับประทานแบบสดๆ กับน้ำพริก หรือคั้นกินแต่น้ำ ช่วยขับปัสสาวะ นำมาต้มอาบเพื่อให้ผิวพรรณเต่งตึง หรืออบไอน้ำบรรเทาอาการริดสีดวงได้ด้วย

หญ้ารีแพร์

 

โดยสรุปสรรพคุณของหญ้ารีแพร์ได้เป็นข้อๆ ดังนี้
•    กระชับมดลูก ช่องคลอดเต่งตึง
•    ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ สำหรับหญิงหลังคลอดบุตร
•    ลดบวมจากแผลฝีเย็บหลังคลอด ฝีเย็บขาด ลดอักเสบสำหรับหญิงหลังคลอดบุตร
•    ขับน้ำคาวปลา สำหรับหญิงหลังคลอดบุตร
•    สมานแผลทั่วไป ภายใน
•    เสริมสร้างเนื้อเยื่อ
•    บรรเทาอาการริดสีดวง
•    รากสามสิบ" href="http://www.thaiherbweb.com/product-type/10860/รากสามสิบ-หญ้ารีแพร์.html">ช่วยขับปัสสาวะ
•    ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง
•    ลดการตกขาวผิดปกติ
•    ลดความอับชื้นบริเวณช่องคลอด
•    ลดไขมันในเลือด
•    คอชุ่มชื้น
•    ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ
•    ฯลฯ
การแพทย์ทางเลือก หรือการแพทย์แผนไทย แม้ไม่ใช่วิธีการแพทย์หลัก แต่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนในอีกทางสำหรับผู้รักษายกตัวอย่างเช่น การรักษาโดยใช้สมุนไพร แม้จะเป็นวิธีการตามแพทย์แผนโบราณ แต่เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการดูแลรักษาแผลหลังคลอดบุตรของแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อให้ได้ผลที่ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า



ขอบคุณบทความจาก : http://www.thaiherbweb.com/product-type/10871 /หญ้ารีแพร์-ฮี๋ยุ่ม.html