วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

งาดำ งาดำสมุนไพรสรรพคุณ บำรุงกระดูกและข้อ ชะรอชรา

งาดำ ภาษาอังกฤษ คือ Black Sesame Seeds มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum Linn. เป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปีย ถูกนำเข้ามาในอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ และเอเชียใต้เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน งาดำเป็นงาชนิดเดียวกับงาขาว แต่แตกต่างกันที่สีของเมล็ดเท่านั้นเอง


   ในประเทศไทยงาดำถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านยารักษาโรค อาหาร และเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นำไปเติมลงในอาหาร หรือแม้แต่นำไปสกัดเป็นน้ำมันงาดำ เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร โดยในงาดำปริมาณ 100 กรัม มีแคลอรี 573 กิโลแคลอรี พร้อมด้วยมีคุณภาพทางอาหารการดังนี้
          - น้ำ 4.69 กรัม
          - โปรตีน 17.73 กรัม
          - คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
          - ไฟเบอร์ 11.8 กรัม
          - น้ำตาล 0.30 กรัม
          - แคลเซียม 975 มิลลิกรัม
          - ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม
          - แมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
          - ฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม
          - โพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม
          - โซเดียม 11 มิลลิกรัม
          - สังกะสี 7.75 มิลลิกรัม
          - ไทอะมีน 0.791 มิลลิกรัม
          - ไรโบฟลาวิน 0.247 มิลลิกรัม
          - ไนอะซิน 4.515 มิลลิกรัม
          - วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม
          - โฟเลต 97 ไมโครกรัม
          - วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม
          - ไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
          - ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม
          - ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม

สรรพคุณของงาดำ งาดำมีสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย และยังมีสรรพคุณช่วยชะลอความแก่ให้ดูอ่อนกว่าวัย รวมไปถึงช่วยในการบำรุงผิวให้สดใสอยู่เสมอ  ในงาดำยังมีโปรตีนบางชนิด ที่เป็นกรดอะมิโนจำเป็น ที่ร่างไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ช่วยในเรื่องการนอนหลับทำให้หลับพักผ่อนสบาย ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกเปราะกระดูกพรุน ดูแลรักษาการเกิดโรคท้องผูก บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร ต้านทานอาการข้ออักเสบ โรคข้อเสื่อม

งาดำ มีความสำคัญอย่างมากต่อความสมบูรณ์ของร่างกายและจิตใจ
  • ช่วยชะลอความแก่ คงความอ่อนเยาว์
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
  • ช่วยซ่อมแซมด้วยกันเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังของคุณ
  • ประโยชน์ของงาดำช่วยบำรุงรักษารากผมให้แข็งแรง และช่วยให้ผมดกเงางาม
  • ช่วยป้องกันผมหงอก
  • ช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย
  • ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
  • ช่วยลดการดูดซึมพร้อมกับการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
  • ช่วยคุ้มกันหลอดเลือดแข็งตัว
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรงยิ่งขึ้น
  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง
  • ช่วยลดความเครียด
  • ช่วยบำรุงระบบประสาทกับสมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท
  • งาดำมีธาตุเหล็กซึ่งช่วยบำรุงโลหิต
  • ช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด ป้องกันเกล็ดเลือดที่จะเกาะตัวกันเป็นลิ่ม
  • ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • การรับประทานงาดำพร้อมกันถั่วจะทำให้ร่างได้รับโปรตีนอย่างครบถ้วน ซึ่งบางตัวเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคหวัด
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา และตะคริว
  • ช่วยบำรุงกระดูกพร้อมด้วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
  • ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  • ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
  • ช่วยต้านการอักเสบจากโรคข้อเสื่อม ยับยั้งการเสื่อมสลาย
  • น้ำมันงาสามารถนำมาใช้เป็นยานวดร่วมกับสมุนไพรอื่น ๆ เพื่อช่วยเยียวยารักษาเส้นเอ็นอักเสบ
  • น้ำมันงาช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก
  • ผู้ทานมังสวิรัตินิยมใส่งาลงในอาหารถั่วเหลืองที่ปรุง เพื่อให้อาหารมีโปรตีนสมบูรณ์มากขึ้น
  • ค่างาดำในการนำมาแปรรูปเป็นงาดำแคปซูล


 งาดำทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์??


การรับประทานงาดำเพื่อให้มีคุณค่าต่อร่างมากที่สุดก็คือการรับประทานงาดำเป็นอาหาร แทนที่จะบริโภคงาดำที่เป็นสารสกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดก็คือการบริโภคด้วยวิธีการเคี้ยวจะได้คุณประโยชน์มากที่สุด แต่หากเรานำมาโรยใส่ข้าวหรือใส่เครื่องดื่ม ในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ จึงทำให้ร่างกายดูดซึมได้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือดูดซึมไม่ได้เลย ซึ่งวิธีการทานก็ง่าย ๆ ด้วยการนำงาดำมาใส่กับขนมปังโฮลวีต บริโภคทุกเช้าวันละ 10 ช้อนสำหรับผู้สูงอายุ แต่สำหรับคนวัยทำงานก็วันละ 3-4 ช้อนก็เพียงพอแล้ว หรือจะอยู่ในรูปของน้ำเต้าหู้งาดำก็ได้เช่นกัน แต่การรับประทานที่ดีนั้นควรรับประทานอย่างเหมาะพร้อมรับประทานให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างได้รับผลประโยชน์อย่างสูงสุดและหลากหลาย นอกจากการบริโภคแล้วสามารถนำเอาน้ำมันงามาใช้นวดทาบริเวณที่มีอาการปวดและดูแลรักษาเส้นเอ็นที่บาดเจ็บ เพราะน้ำมันงามีสรรพคุณที่ช่วยนำพาสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ที่ถูกนำมาผสมดูดซึมเข้าไปได้ดีขึ้น

เวปไซต์  www.thaiherbweb.com
Line ID>> @ THAIHERBWEB
Line code>>http://line.me/ti/p/%40thaiherbweb
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน สมุนไพรลดน้ำตาล โรคเบาหวาน

สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน



โรคเบาหวาน เกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ, หรือเซลล์ร่างไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสมต่ออินซูลินที่ผลิต, อย่างใดอย่างหนึ่ง. น้ำตาลที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างจะถูกนำไปเปลี่ยนเป็นพลังงานโดยการควบคุมของอินซูลิน ในเมื่ออินซูลินมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถดึงน้ำตาลไปใช้ได้ จึงมีน้ำตาลตกค้างในกระแสเลือดมาก ไตจึงขับของเสียออกมาทางปัสสาวะ อันเป็นเหตุให้ปัสสาวะหวานนั้นเอง เบาหวานมีสามชนิดหลัก ได้แก่

เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ แบบนี้อดีตเคยเรียกว่า "เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน" หรือ "เบาหวานวัยแรกรุ่น" มูลเหตุยังไม่ทราบ
เบาหวานชนิดที่ 2 เริ่มขึ้นจากการดื้อต่ออินซูลิน คือ ภาวะที่เซลล์ไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม เมื่อโรคดำเนินไป อาจมีการขาดอินซูลินด้วย แบบนี้อดีตเคยเรียก เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน หรือ "เบาหวานที่เกิดในผู้ใหญ่" ที่มาหลักเกิดจากน้ำหนักกายเกินพร้อมด้วยออกกำลังกายไม่เพียงพอ
เบาหวานระหว่างมีครรภ์ เป็นแบบหลักชนิดที่สาม พร้อมด้วยเกิดเมื่อหญิงมีครรภ์ซึ่งไม่เคยมีประวัติเบาหวานมาก่อนมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
การป้องกันและรักษา รวมถึงการรับประทานเครื่องกินที่ดีต่อสุขภาพอนามัย, การออกกำลังกาย, การงดสูบบุหรี่ ด้วยกันการรักษาน้ำหนักกายให้ปกติ. การควบคุมความดันโลหิตและการดูแลเท้าอย่างเหมาะสมก็สำคัญต่อผู้ป่วยเช่นกัน. เบาหวานชนิดที่ 1 ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน. เบาหวานชนิดที่ 2 อาจรักษาด้วยยาพร้อมกับอินซูลินด้วยหรือไม่ก็ได้ อินซูลินและยากินบางชนิดสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงได้ การผ่าตัดลดน้ำหนักในผู้ป่วยโรคอ้วนเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2เบาหวานระหว่างมีครรภ์โดยปกติหายได้เองหลังทารกคลอด

ไม่มีมาตรการป้องกันที่รู้จักกันดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1. เบาหวานชนิดที่ 2 มักจะสามารถปกป้องรักษาได้โดยการเป็นคนน้ำหนักปกติ, การออกกำลังกาย, พร้อมทั้งรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพต่อเนื่อง การเปลี่ยนอาหารที่รู้จักกันว่ามีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคเบาหวานจะเป็นอาหารการกินที่อุดมด้วยธัญพืชและเส้นใย, และเลือกไขมันที่ดีเช่นไขมันไม่อิ่มตัวหลายจุดที่พบในถั่ว, น้ำมันพืชและปลา การจำกัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและการกินเนื้อแดงพร้อมทั้งแหล่งไขมันอิ่มตัวอื่นๆให้น้อยลงก็สามารถช่วยในการสนอมโรคเบาหวานได้อีกด้วย การสูบบุหรี่ก็เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่จะเป็นมาตรการปกป้องรักษาที่สำคัญเช่นกัน

การดูแลและป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตานั้นทำได้ไม่ยาก หากเราใส่ใจกับการควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยการควบคุมโภชนา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่วมกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือด โรคไต หรือการสูบบุหรี่ เป็นต้น ควรตรวจอนามัยตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง และหากมีอาการผิดปกติ เช่น ตามัว มีเงาดำลอยไปมา ควรรีบปรึกษาเวชทันที

 โรคเบาหวาน รักษาได้ด้วยวิถีธรรมชาติ ต้อนรับอนามัยดีพร้อมกับลดน้ำตาลในเลือดได้ด้วยสมุนไพรสรรพคุณเลอค่า นอกจากจะกินยารักษาโรคเบาหวานตามที่แพทย์สั่งแล้ว ผู้ป่วยหลาย ๆ คน ก็ยังเสาะหาวิธีควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งอีกหนทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือการรับประทานสมุนไพรรักษาเบาหวาน เหตุเพราะนอกจากจะช่วยเรื่องโรคเบาหวานได้แล้วก็ยังได้ของแถมเป็นอนามัยที่ดีอีกด้วย

มะระขี้นก สมุนไพรไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องการลดระดับน้ำตาลในเลือด เรียกว่าเป็นสมุนไพรที่เป็นมิตรกับผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างแท้จริง ด้วยเพราะสารซาแรนติน (Charatin) ในผลมะระขี้นกที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ทัดทานอาการของโรคเบาหวาน พร้อมกับช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน เพิ่มความทนทานต่อกลูโคสของร่างกาย พร้อมด้วยช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด
          นอกจากนี้มะระขี้นกยังช่วยยับยั้งเอนไซม์แอลฟากลูโคซิเดส  (Alpha-glucosidase) อันเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ขณะที่การรับประทานมะระขี้นกเป็นประจำก็สามารถชะลอความผิดปกติของไต พร้อมด้วยความเสื่อมของเส้นประสาทในร่างกายจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงสะสมเป็นเวลานาน ไม่เพียงเท่านั้นยังชะลอการเกิดโรคต้อกระจกในผู้ป่วยเบาหวานด้วย ยิ่งไปกว่านี้มะระขี้นกยังมีคุณค่าดี ๆ ต่อสรีระอีกมากมาย และสามารถนำมาทานได้แบบสด ๆ เป็นผักเคียงน้ำพริกได้เลย ดีแบบนี้ไม่หามาลองก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะ 

อบเชย หรือชินนามอน (Cinnamon) เป็นสมุนไพรอีกชนิดที่มีสารสำคัญในการช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคเบาหวานกับโรคที่เกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย โดยแค่เพียงโรยผงอบเชยลงในอาหารการกินที่ทานก็ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้แล้วล่ะค่ะ

ชาเขียว สารโพลีฟีนอลในชาเขียวเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังที่ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาเซลล์จากการถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย โดยสามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยส่งเสริมการทำงานของอินซูลิน แถมยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ก็ควรจะดื่มชาเขียวแท้ ๆ นะคะ แบบที่เติมน้ำตาลเยอะ ๆ นั้นเลี่ยงให้ไกลเลยโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ไม่งั้นอาจจะได้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาแทน


 ขมิ้นชัน สมุนไพรที่ให้สีเหลืองสดใสนี้ นอกจากจะช่วยลดอาการอักเสบได้แล้วก็ยังสามารถชะลอการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยพบว่าคนที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวานหากรับประทานอาหารที่มีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในขมิ้นติดต่อกันเป็นประจำ_จะช่วยให้ความเสี่ยงโรคเบาหวานลดลง ทั้งนี้มีการสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเพราะสารเคอร์คูมินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง จึงช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายได้นั่นเอง

 ผักเชียงดา สมุนไพรลดน้ำตาล อีกหนึ่งชนิดที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวานแบบพื้นบ้านมานานนับพันปี นอกจากประโยชน์ในการช่วยเพิ่มเติมกำลังแล้ว ผักเชียงดายังสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยเจ้าผักชนิดนี้จะนำเอาน้ำตาลในร่างไปเผาผลาญมากขึ้น อีกทั้งยังเข้าไปฟื้นฟูเบต้าเซลล์ของตับอ่อนที่เสียหายจากการถูกน้ำตาลทำลาย ซึ่งเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และ 2 ทั้งนี้ยังช่วยลดลู่ทางที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน แถมยังเพิ่มการหลั่งอินซูลินได้อีกด้วยล่ะ ดีแบบนี้ขอบอกว่าผักเชียงดานั้นมีให้ทานง่าย ๆ แบบแคปซูลกันแล้ว ลองหามารับประทานกันได้ค่ะ

แห้ม  ลดน้ำตาล ความดัน ไขมัน  คุณประโยชน์ ลดเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ขับเหงื่อ ขับถ่ายดี ลดความอ้วน ละลายไขมันอุดตันในเส้นเลือด กระเพาะอาหาร ลำไส้เป็นแผล ช่วยขับพิษตกค้าง ปวดหลัง ปวดเอว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทำให้สุขภาพแข็งแรง ต้านมะเร็ง ปรับปรุงภูมิต้านทาน ลดคอลเลสเตอรอล ยับยั้งการเกาะของเกล็ดเลือด ปกป้องเซลล์จากรังสี  แต่ในขณะเดียวกัน ต้องจัดช่วงเวลาในการรับประทานแห้มให้พอเหมาะ เช่น ช่วงเช้า ทุกวัน หรือช่วงเย็นทุกวัน เพราะแห้มจะช่วยระบายในส่วน ของการขับถ่าย (การถ่าย)  ทานแห้มเป็นประจำดี แต่พยายามควบคุม ถ้าไม่ควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด จะลดลงมาก อันนี้ก็ร้ายแรงเช่นกัน

 บอระเพ็ด สมุนไพรลดเบาหวาน สมุนไพรข้างรั้วที่สามารถหาได้ทั่วไปมีสรรพคุณ ลดระดับน้ำตาลในเลือด กลไกในการออกฤทธิ์ของสารสกัดจากบอระเพ็ดพบว่าออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นการหลั่ง insulin ที่เบตาเซลล์ ทำให้เบตาเซลล์มีความไวต่อความเข้มข้นของ Ca2+ ภายนอกเซลล์ ส่งเสริมให้เกิดการสะสมของ Ca2+ ภายในเซลล์ และทำให้เกิดการหลั่งของ insulin โดยไม่รบกวนการดูดซึมของกลูโคสจากทางเดินอาหารและไม่รบกวนการนำกลูโคสเข้า peripheral cell (Noor and Ashcroft, 1998) อีกทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยเจริญอาหาร เนื่องจากความขมของบอระเพ็ด จึงสามารถใช้เป็นยาที่ทำให้เจริญอาหารได้


 แม้ว่าการใช้สมุนไพรจะช่วยรักษาอาการเบาหวานได้ แต่ก็อย่าลืมว่าสมุนไพรบางชนิดอาจส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย หากคิดจะใช้สมุนไพรควบคู่กับการรักษาละก็ ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนจะดีที่สุดค่ะ

เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID  @THAIHERBWEB 
เพสบุุ๊ค  https://www.facebook.com/ThaiHerbClub/
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214


ฟ้าทะลายโจร ฟ้าทลายโจร สรรพคุณแก้ไข้ แก้หวัด เจ็บคอ แก้ไอ

ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ


สมุนไพร มีบทบาทเกี่ยวกับ การป้องกันการเกิดโรค และ ชะลอความเสื่อม ของร่างกาย คือ การต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ การเกิดโรค พร้อมทั้งความเสื่อมของร่างกาย แนวทางการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง คือ การเสริมสร้างภูมิต้านทาน การชะลอความแก่ของเซลล์ต่างๆ การเพิ่มการไหลเวียนเลือดพร้อมด้วยรักษาหลอดเลือดแข็งตัวรวมทั้งเสริมการทำงานอย่างเป็นระบบของอวัยวะทุกส่วน ซึ่ง สมุนไพรที่มีบทบาทดังกล่าว อย่าง ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง เป็นต้น
ฟ้าทะลายโจร ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.Ex Nees สมุนไพรฟ้าทลายโจรแคปซูลด้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในตัว พร้อมทั้งได้ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติของประเทศไทย ใช้บรรเทาอาการของโรคหวัด (Commom cold) เช่นเจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล พร้อมกับบรรเทาอาการท้องเสียไม่ติดเชื้อ 

ฟ้าทลายโจรแคปซูลสรรพคุณ มีการใช้เพื่อจะการป้องกันหวัดมาอย่างยาวนานในประเทศจีน และมีรายงานการวิจัยว่า ฟ้าทลายโจร ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ทั้งแบบการสร้างแอนติบอดี เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอดมี่เข้ามาในร่างกายและกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมก
โครฟาจให้จับกินเชื้อโรคได้ดีขึ้น กลไกการออกฤทธิ์ของสาระสำคัญในฟ้าทะลายโจรต่อร่างกายมี 3 กลไก คือ
·         มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านการอักเสบ พร้อมทั้งลดอาการจากหวัด
·         มีฤทธิ์ลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส พร้อมด้วยทำให้ความสามารถของเชื้อไวรัสในการเกาะติดกับผนังเซลล์ลดลง จึงทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ยากขึ้น
·         มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น
อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในการกินระยะยาว ด้วยกันมีการรับรองฟ้าทะลายโจรรักษาหวัดจากองค์การอนามัยโลกอีกด้วย
ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า น้ำต้มฟ้าทะลายโจรมีผลทำให้หนูทดลองแท้งได้
ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรบรรเทาอาการไข้หรือเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Steptococcus group A ซึ่งมีอาการรุนแรง และการติดเชื้อแบคทีเรียกกลุ่มนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ไข้รูมาติก โรคหัวใจรูมาติกและไตอักเสบ
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคควรกินฟ้าทะลายโจรตามคำแนะนำดังนี้
·         การใช้เกี่ยวกับ บรรเทาสภาพท้องเสียชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ คืออุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน ให้กินครั้งละ 500 มิลลิกรัม ถึง 2 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
·         การใช้เพื่อ บรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ให้กินครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารกับก่อนนอน

ฟ้าทะลายโจร” สมุนไพรที่มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนาน พร้อมกับเป็นสมุนไพรที่มีจำนวนการศึกษาวิจัยมากที่สุดชนิดหนึ่งในระดับนานาชาติ ประเทศที่มีการแพทย์ดั้งเดิมที่มีรากฐานมั่นคงอย่างอินเดียและจีน ก็มีประวัติการใช้ฟ้าทะลายโจรมานับพันปี โดยจีนได้ค้นพบสาระสำคัญในฟ้าทะลายโจร มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2436 วงการแพทย์จีนได้จัดฟ้าทะลายโจรเป็นยาตำราหลวงที่มีคุณค่าเด่นมากตัวหนึ่ง สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวได้ครอบคลุมหลายสรรพคุณ เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ หวัด ปวดท้อง ท้องเสีย
สำหรับการใช้ฟ้าทะลายโจรในประเทศไทยนั้น จำกัดอยู่ในหมู่หมอพื้นบ้านในบางพื้นที่ โดยมีการใช้ในสรรพคุณเดียวกันกับจีน พร้อมกับเริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายในสังคมไทยมากขึ้น เมื่อราว พ.ศ.2528 ในเวลาต่อมาได้มีการศึกษาวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรในการลดอาการเจ็บคอ ท้องเสีย ในระดับนานาชาติ ซึ่งการวิจัยฟ้าทะลายโจร ในคน นับเป็นการค้นคว้าวิจัยที่มีคุณภาพสูง จากการค้นคว้าวิจัยดังกล่าวข้างต้นพบว่า ฟ้าทะลายโจร สามารถลดอาการปวดหัว อ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล อาการไอ จาม พร้อมทั้งทำให้หายจากหวัดได้เร็วขึ้นลดระยะเวลาการขาดงานโดยมีกลไกการออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน การลดการอักเสบ ทำให้ไวรัสเข้าเซลล์ได้ลดลง ฟ้าทะลายโจรจึงเป็นสมุนไพรที่มีผลดีในการบรรเทาหวัดมาก เนื่องจากหวัดเป็นโรคที่ไม่มียาแผนปัจจุบันรักษา ต้องพึ่งภูมิต้านทานในตัวคน นอกจากนี้ การศึกษาทางเภสัชวิทยายังพบว่า ฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันหัวใจ ต้านมะเร็ง เหตุฉะนี้ ฟ้าทะลายโจรยังมีแนวโน้มที่ดีในการพัฒนาเป็นยาต้านมะเร็งที่กำลังเป็นสาธารณะสุขที่สำคัญของโลก

ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง มีการศึกษาด้านพิษวิทยาทั้งระยะเฉียบพลัน พิษกึ่งเรื้อรัง พร้อมด้วยพิษเรื้อรัง พบว่ามีความปลอดภัย จึงอนุญาตให้มีการค้นคว้าวิจัยในเด็กอายุระหว่าง 4-11 ขวบ อีกด้วย นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่องค์การอนามัยโลกให้การยอมรับ และได้มีผลิตภัณฑ์ ฟ้าทะลายโจรจำหน่ายในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ในรูปแบบผลิตภัณฑ์สุขภาพอนามัยในการป้องกัน และรักษาหวัด
ประเทศไทยได้บรรจุให้ฟ้าทะลายโจรอยู่ในปัญชียาหลักตั้งแต่ พ.ศ.2542 ขนาดที่แนะนำให้กินคืน วันละ 3-6 กรัม แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ และกินวันละ 1.5-3 กรัม แบ่งให้วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน เพื่อบรรเทาอาการหวัด
แม้ว่าฟ้าทะลายโจรจะมีความปลอดภัยสุงในขนาดที่แนะนำให้ใช้แต่ก็ห้ามใช้ในคนท้อง พร้อมด้วย ห้ามใช้ในคนที่แพ้สมุนไพรตระกูล Acanthaceae ซึ่งการแพ้นี้พบชนิดที่มีการแพ้ที่รุนแรงด้วย  ซึ่งการแพ้แบบรุนแรงดังกล่าวแม้ว่าจะพบได้น้อยก็ตาม แต่ก็สามารถเกิดได้ทั้งจากยา วัคซีน และสารเคมี เช่นยาในกลุ่มเพนิซิลลิน จากอาหารจำพวกไข่ นม แป้งสาลี นมถั่วเหลือง อาหารทะเล เป็นต้น  การติดคำเตือนว่าผลิตภัณฑ์นั้นทำให้แพ้แบบรุนแรงได้นั้น จึงเป็นสิ่งที่ดี พร้อมด้วยควรทำในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งยาแผนปัจจุบัน ยาจากสมุนไพร อาหารสำเร็จรูปต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะฟ้าทะลายโจรเพียงอย่างเดียว เนื่องมาจากจะทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสใช้สมุนไพรที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง ที่สามารถปลูกเองใช้เองได้มีความปลอดภัยสูง มีงานวิจัยรองรับและสามารถเป็นที่พึ่งด้านสุขภาพอนามัยให้กับประชาชนและประเทศ ในยามที่ประเทศกำลังถกเถียงเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของคนในประเทศ

การดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ แต่การป้องกัน คือการรักษาที่ดีที่สุดค่ะ

เวปไซต์ thaiherbweb.com
Line ID  @THAIHERBWEB 
เพสบุุ๊ค  https://www.facebook.com/ThaiHerbClub/
เบอร์โทร 0973199029, 0805842717, 021387031, 0863515214